รีวิว ชนชั้นปรสิต Parasite กลับมาอีกครั้งกับรีวิวหนังใน Netflix ที่คนเขียนดูมานาน เลยอยากจะรีวิวให้ทุกคนได้เห็น เป็นภาพยนตร์เกาหลีเรื่องแรกที่ได้รับรางวัล Palme d’Or ที่เมือง Cannes ในประเภท Parasitic Class หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Parasite เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงประเด็นความไม่เท่าเทียมกันในสังคมและเสียดสีสังคมอย่างมากโดยมีเนื้อเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ คุณสามารถทำนายได้ เรื่องราวนี้จะส่งผลต่อใจผู้ชมในด้านใดบ้าง? มาดูรีวิวนี้กันเล่าเรื่องราวของครอบครัวคิมที่อาศัยอยู่ในห้องใต้ดินของอาคารทรุดโทรม ในย่านสลัม มองออกไปนอกหน้าต่างฉันเห็นกองขยะเท่านั้น
จนบางวันมีคนเมาอาเจียนฉี่รดเขา วันหนึ่งเพื่อนของเขา Kim Ki Woo (Choi Woo Shik) กำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาจึงขอให้เขาสอนเป็นภาษาอังกฤษแทน คิมกีอูแอบโพสท่าเป็นครูสอนพิเศษให้กับบ้านของมหาเศรษฐีปาร์คตระกูลพัค แล้วเขาก็เห็นว่างานนี้สามารถสร้างรายได้ให้เขาได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ครอบครัวพ้นจากชีวิตเส็งเคร็ง เขาจึงวางแผน เริ่มต้นด้วยน้องสาวคิมกีจุง (พัคโซดัม) รับบทเป็นครูสอนศิลปะให้กับลูกชายคนเล็กของครอบครัวพัคและพ่อคิมกีแทค (ซงคังโฮ)
รีวิว ชนชั้นปรสิต Parasite เรื่องย่อ
รีวิว ชนชั้นปรสิต Parasite มาเป็นคนขับรถให้กับครอบครัวคุณปาร์ค จากนั้นพี่น้องคิมก็วางแผนที่จะใส่ร้ายแม่บ้านเก่าเพื่อไล่เธอออกเพื่อที่แม่ของพวกเขา คิมชองซอก (จางฮเยจิน) จะมาสมัครเป็นแม่บ้านคนใหม่ แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้เพราะแม่บ้านคนก่อนได้ซ่อนความลับไว้ในห้องใต้ดิน หลังจากไม่ได้ทำงานเป็นแม่บ้านอีกต่อไป แม่บ้านคนก่อนยังหาทางกลับมาได้เพราะมีบางอย่างซ่อนอยู่ในห้องใต้ดิน และเมื่อความลับของห้องใต้ดินถูกเปิดเผย ก็ทำให้ชีวิตของตระกูลคิมเปลี่ยนไปตลอดกาล พร้อมทั้งทำให้ครอบครัวปาร์ค พลอย ได้รับมุขตลกร้ายๆ เรื่องนี้ไปด้วย
ชนชั้นปรสิต เมื่อเห็นชื่อเรื่องครั้งแรกคุณอาจจะคิดว่าเป็นหนังเอเลี่ยนต่างโลก แต่คำว่าปรสิตในเรื่องนี้หมายถึงครอบครัวคิมที่เปรียบเหมือนกับปรสิตที่แฝงเข้ามาในบ้านตระกูลปาร์คทีละคนแล้วเอาความจนของตัวเองมาอ้างในการกระทำแบบผิด ๆ ทั้งที่บ้านตระกูลปาร์คถึงแม้จะมีฐานะร่ำรวยแต่ก็เป็นเหมือนกับครอบครัวธรรมดาที่ทำมาหากินเหมือนกันแต่กลับพลอยโดนหางเลขไปด้วยเมื่อดูจบแล้วเชื่อว่าหลาย ๆ คนจะไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดออกมาได้เลย เพราะความรู้สึกตีกันอยู่ในหัวมากมาย จุกเกือบทุกซีน ให้ความรู้สึกเหมือนกับดูหนังฆาตรกรรม ที่มีการหักมุมแล้วหักมุมอีก ดูแล้วรู้สึกหดหู่และอัดอัดมาก ในความเหลี่ยมล้ำระหว่างคนรวยที่สุดกับคนจนที่สุดนี้
เนื้อหาต่อจากนี้มีการสปอยบางส่วนดังเช่น ฉาก ในคืนฝนตกที่ครอบครัวคิมแอบเข้าไปในบ้านตระกูลปาร์คและทำข้าวของในบ้านเละเทะไปหมด แต่ไม่นานครอบครัวปาร์คก็กลับมา ครอบครัวคิมกลัวโดนจับได้จึงได้แอบเข้าไปนอนอยู่ใต้โซฟาของห้องนั่งเล่น จากนั้นคุณชายปาร์คและภรรยาก็ได้มานั่งบนโซฟานี้จนกระทั่งมีอะไรกัน ในขณะที่พวกเขานอนแอบอยู่ใต้โซฟาฉากที่คุณชายปาร์คคุยกับภรรยาและบอกว่า คิมกีแท็ก มีกลิ่นสาป ซึ่งกลิ่นสาปของเขาเกิดจากบ้านที่สกปรกเพราะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใต้ถุนตึก ที่ผู้คนนำขยะมาทิ้ง ถึงเขาจะซักผ้าหรือใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมแค่ไหนหรืออาบน้ำยังไงกลิ่นนี้ก็ยังจะติดตัวเขาอยู่ หรือ อีกความหมายหนึ่งคือกลิ่นสาปคนจนนั่นเองและฉากในคืนที่ฝนตกเรียกว่าเป็น The Best ที่สุดของเรื่องที่ทำให้มองเห็นภาพชัดที่สุดในคำนิยามว่า “ความเหลื่อมล้ำ”
สามฉากนี้ทำให้คนเขียนใจละลายจริงๆ ฉันยังคงสำลักเพียงแค่ฟัง และอยากปรบมือให้กับคนที่แสดงเป็น คิม กีแทค จริงๆ เพราะการแสดงของเขาสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครพ่อที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เหมือนเรามีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วยคลาสปรสิต แนวคิดที่น่าสนใจและจุดเด่นของเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องที่ขึ้นต้นด้วยความตลกขบขัน เข้ามาด้วยความตื่นเต้นและจบลงด้วยตอนจบที่สะเทือนใจแล้วพลิกเรื่องเพื่อให้ผู้ชมคิดตามและเข้าใจประเด็นที่ถ่ายทอดได้ง่าย ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวที่ดูเหมือนหนังสยองขวัญสยองขวัญน่าขนลุก โดยนำเสนอประเด็นเรื่องชนชั้นและความไม่เท่าเทียมทางสังคมในมุมมองใหม่ให้ผู้ชมได้มองถึงรากเหง้าที่ลึกซึ้ง มันก็เหมือนเหรียญสองด้าน ระหว่างคนจนกับคนรวย
ด้านคนจนแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของคนจนในสังคม การดิ้นรนใช้ชีวิตแต่ละวัน ว่ายาก ความทุกข์เป็นมากกว่าสิ่งที่คนรวยรู้และเข้าใจ เต็มใจทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีคุณภาพชีวิตที่ดี จนกว่าคุณจะไม่สนใจว่าถูกหรือผิด แต่หากมองอีกมุม ด้านคนรวย ครอบครัวคิมถือเป็นครอบครัวที่น่ากลัวและน่ารังเกียจมาก เพราะในชีวิตจริงถ้าเราเจอสถานการณ์แบบนี้เราคงจะหัวเราะไม่ออกแน่นอน กับการมีคนแอบอยู่ในบ้านโดยที่ไม่เคยรู้มาก่อน และผู้คนรอบตัวพวกเขาเพียงแต่มองหาโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากความมั่งคั่งของพวกเขาอย่าง Parasite และพึ่งพาความยากจนเพื่อให้ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ
รีวิว ชนชั้นปรสิต Parasite หากการทานอาหารร่วมกันและหัวเราะกับครอบครัวที่ไม่หรูหราแต่น่าพอใจเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้คุณมีความสุขทุกครั้งที่คิดถึงมัน ครอบครัวคิมซึ่งอยู่กันหนาแน่นในบ้านใต้ดินแต่มีกันและกัน จะทำให้คุณคิดและลิ้มรสความสุขที่พวกเขายินดีจะมอบให้กันและกัน ตลอดทั้งเรื่อง อเล็กซ์ ฮง ผู้กำกับภาพของผู้กำกับบง จุนโฮ ถ่ายภาพบ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่ต่ำกว่าระดับถนน โดยมองเห็นรายละเอียดต่างๆ เช่น คราบเชื้อราและผนังได้ สกปรกเหมือนคนที่มีคุณภาพชีวิตต่ำ แต่เรารู้สึกถึงความอบอุ่น ห่วงใยกัน
ขณะเดียวกันก็พยายามหาสัญญาณ Wi-Fi ฟรี ไล่คนเมาที่ปัสสาวะหน้าบ้านออกไป หรือแม้แต่ตอนที่พวกเขาถูกจ้างให้พับกล่องพิซซ่าท่ามกลางควันจากเครื่องพ่นยาฆ่าแมลง เรายังรู้สึกว่าพวกเขาพยายามสนับสนุน ให้กำลังใจ และดูแลกันอย่างดี แถมบทสนทนาก็เขียนอย่างเป็นธรรมชาติและถ่ายทอดโดยทีมนักแสดงมากความสามารถที่พร้อมจะให้เราติดตามแผนร้าย แม้จะผิดแต่เราก็เข้าใจว่าต้องทำ “เตะตัวเอง” ออกจากชีวิตของพลเมืองอย่างเลวร้ายจนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นกับชะตากรรมของพวกเขา
บทความแนะนำ